20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ 600 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6.05 ชั่วโมง
08.00 น. คณะเดินทางถึง สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (**เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ควรปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดเซ็นโซจิ หรือวัดอาซากุสะ (Sensoji Temple) เป็นวัดที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียวแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว โดยจะมี ถนนนากามิเสะ (Nakamise) ที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย โดยนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพที่ระลึกกับโคมแดงอันใหญ่ๆ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญมากๆ ของวัดแห่งนี้ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าของญี่ปุ่น เลือกกินขนมสุดอร่อยตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านแวะ ถ่ายรูปหอคอยโตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) ริมแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียวบริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโตรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของหอคอยโตเกียวสกายทรีที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุด สามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ ซึ่งริมแม่น้ำสุมิดะนั้น ท่านสามารถเก็บภาพความประทับใจกับความสวยงามของวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ที่มีหอคอยสูงตระหง่านตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านสู่ ย่านชิบามาตะ (Shibamata) ย่านแห่งนี้มีความน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นแบบวินเทจ ตามเส้นทางของถนนเรื่อยๆ ระหว่างสองข้างทางของย่านี้ จะมีร้านขายของ และร้านอาหารเรียงรายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งจะให้บรรยากาศที่เก่าแก่มากๆ เนื่องจากแต่ละร้านล้วนมีบรรยากาศสไตล์ดั้งเดิมตามแบบฉบับของญี่ปุ่นในสมัยโชวะ ถือเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองในเรื่องการการแสดง และภาพยนตร์ ร้านค้าสองข้างทางจะส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ร้านขนมและร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ แต่ละร้านล้วนเป็นร้านเก่าแก่ เพราะฉะนั้นแนะนำให้แวะชิมกันได้ตามอัธยาศัย เพราะรสชาตินั้นอร่อยแบบดั้งเดิมแน่นอน ยิ่งถ้าใส่ชุดยูกาตะมาเดินด้วยแล้ว ยิ่งถ่ายรูปได้ฟิลสุดๆ เมื่อเดินมาถึงสุดถนนจะเจอ วัดไทชะคุเท็น (Taishakuten Temple) สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1629 หรือเกือบ 400 ปีมาแล้วตั้งแต่ยุคเอโดะ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ประติมากรรม งานแกะสลักไม้อันวิจิตรประดับเป็นผนังรอบวัด ลักษณะเดียวกับวัดโทโชกุ ที่เมืองนิกโก้นั่นเอง และอีกอย่างคือ “แนวต้นสนซุยริวมัตสุ” ที่มีอายุกว่า 500 ปี แผ่กิ่งก้านจากต้นเดียว ไปทั่วบริเวณด้านหน้าวิหารวัด ผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรเรื่องสุขภาพกัน จากนั้นนำท่านสู่ เมืองคามาคุระ (Kamakura) เมืองเก่าในจังหวัดคานากาว่า ห่างจากโตเกียวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น มีทั้ง วัด ศาลเจ้าเก่าแก่ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งคามาคุระ ยังเป็นเมืองติดทะเลที่มีชายหาดที่เป็นหาดทรายสีขาวสะอาด จนเป็นที่นิยมของชาวเมืองโตเกียว และโยโกฮาม่า ที่จะมาท่องเที่ยวพักผ่อนกันที่เมืองนี้ เมืองคามาคุระจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นอีกเมืองหนึ่งด้วย จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟสาย ENODEN นั่งประมาณ 30 นาที เป็นขบวนรถเป็นแบบย้อนยุค ชวนให้หวนนึกถึงบรรยากาศแบบเก่าๆ โดยนั่งจาก “สถานี Fujisawa” ไปจนถึง “สถานี Hase” (โดยรถไฟจะวิ่งทุกๆ 15 นาที) ตลอดทางนั้นเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม และสถานที่เก่าแก่มากมายของเมืองคามาคุระ รถไฟสายนี้วิ่งออกจากตัวเมืองคามาคุระ ลอดผ่านอุโมงค์กลางภูเขา เลียบไปตามชายฝั่งโชนัน (Shonan) ทำให้ได้เพลิดเพลินกับวิวสวยๆ จากหน้าต่างรถไฟอย่างไม่มีเบื่อ จากสถานี Hase นี้ ท่านสามารถเดินไปยัง วัดโคโทคุอิน (Kotokuin Temple) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระใหญ่ไดบุทสึ (Kamakura Daibutsu) นับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากๆ ของเมืองคามาคุระเลยทีเดียว โดยถือเป็นรูปปั้นพระที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น จะเป็นรองก็แค่เพียงพระใหญ่ที่วัดโทไดจิ เมืองนารา เท่านั้นเอง ก่อนหน้านั้นในตอนแรก องค์พระท่านไม่ได้ตั้งอยู่ด้านนอกอย่างที่เห็นอยู่อย่างในปัจจุบัน แต่เดิมทีองค์พระนั้นได้ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดหลายส่วนได้ถูกพายุไต้ฝุ่นทำลายลง ทำให้เหลือแต่องค์พระใหญ่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่ ซึ่งก็ก็ถือเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากๆ เลยทีเดียวเชียวที่จะเห็นองค์พระพุทธรูปตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ภายนอกอาคารอย่างที่วัดแห่งนี้ อีกทั้งคนญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นิยมมาสักการะพระใหญ่แห่งนี้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินไปอีกไม่ไกลไปยัง วัดฮาเซเดระ (Hase-dera Temple) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน โดยที่วัดฮาเซเดระนี้ จะมีไฮไลท์ที่องค์เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักด้วยไม้ทั้งองค์ 11 เศียรขนาดใหญ่ และเหล่าพระพุทธรูปหลายแบบหลายขนาดรวมกันหลายร้อยรูปกระจายกันอยู่ทั่ววัด นอกจากนี้ จากการที่วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขานี่เอง ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมวิวได้สวยจากจุดชมวิวของวัด โดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้น ทั้งภายในวัด และบริจุดชมวิว ท่านได้จะได้ชมวิวเมืองคามาคุระโดยเบื้องหน้าเป็นท้องทะเลไกลโพ้นอันสวยงามได้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองยามานะชิ
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม (2) (พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ขาปู)
ที่พัก Yukari No Mori หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงาม และช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (3)
จากนั้นนำท่านสู่ โออิชิพาร์ค (Oishi Park) สวนสาธารณะริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวยอดฮิตของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้น สามารถชื่นชมความงามของทุ่งดอกโคเคีย สีแดงสด สะกดสายตา (บานเต็มที่ในเดือน ต.ค.-พ.ย.) และมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ อีกกว่า 90 ชนิด ที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ นับเป็นสวนดอกไม้ที่มีความสวยงาม โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง สามารถถ่ายภาพดอกไม้หลากสีสันโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลัง ให้ท่านเดินชมพร้อมเก็บภาพความประทับใจไปตามถนนดอกไม้ เพื่อชมภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม เราจะรู้สึกผ่อนคลายจนลืมเวลาไปได้เลย ด้านในมีศูนย์ Kawaguchiko Natural Living Center ที่สามารถซื้อของฝากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นมากมายอีกด้วย (**การบานของดอกไม้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ) จากนั้นนำท่านสู่ ภูเขาไฟฟูจิ ชั้น 5 (Mt. Fuji 5th Station) ให้ท่านสัมผัสภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิดที่บริเวณขั้นที่ 5 ซึ่งเป็นจุดที่รถโดยสารสามารถขึ้นไปจอดได้ ภูเขาไฟฟูจินั้น เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ท่านสามารถชมความงามของภูเขาไฟฟูจิได้ตลอดทั้งปี เพราะในแต่ละฤดู ภูเขาไฟฟูจิจะมีความงดงามที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังเป็นเป็นภูเขาไฟที่สวยงามไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม (**หมายเหตุ การขึ้นชมภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์พิเศษ เรียนรู้พิธีชงชาแบบญี่ปุ่น (Shikido) ให้ท่านได้เรียนรู้วิธีชงชาแบบธรรมเนียมญี่ปุ่น มีเซนเซมาสอนการชงชาแบบญี่ปุ่นตั้งแต่การวอร์มอุปกรณ์ การชง และขั้นตอนการดื่ม อีกทั้งยังเป็นการชงชาที่วิวทิวทัศน์ดีมากๆ ท่านจะได้มองเห็นทั้งวิวภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบคาวากูจิโกะ จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์เมเปิ้ล หรือทางเดินสายเมเปิ้ล (Momiji Kairo) ที่ตลอดสองข้างทางทั้งสองฝั่ง จะมีต้นเมเปิ้ลผลัดใบเปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ร่วงหล่นปกคลุมผืนน้ำของคูคลองราวกับพรม (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) ให้ท่านได้เดินชมบรรยากาศภาพชวนฝันของบรรดาต้นเมเปิ้ลที่ไล่เฉดสีโทนอุ่นอย่างสวยงาม และในตอนกลางคืนจะมีไฟ illumination เปิดประดับยาวตามทางเดินไปตลอดแนวอีกด้วย บริเวณใกล้ๆกับอุโมงค์นี้ ก็มีที่เที่ยวอีกหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์, ร้านกาแฟ และร้านอาหารอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโตเกียว อีกครั้ง นำท่านสู่ โอไดบะ (Odaiba) และช้อปปิ้ง Diver City Plaza เป็นเกาะจำลองขนาดใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นจากการถมทะเลบริเวณอ่าวโตเกียว เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะเขตท่าเรือ จนถึงช่วงทศวรรษที่ 1990 โอไดบะ ได้กลายเป็นย่านการค้า มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่พักอาศัย และแหล่งนันทนาการที่ใหญ่โตแห่งหนึ่ง ให้ท่านได้ชม Unicorn Gundam หุ่นกันดั้มตัวใหม่เป็นรุ่น RX-0 Unicorn Gundam ในโหมด Destroy เป็นหุ่นสีขาว-แดง มีความสูงประมาณ 24 เมตร สูงกว่าหุ่นตัวเดิมถึง 6 เมตร และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ ย่านชินจูกุ (Shinjuku) และถ่ายรูปกับ Cat 3D ย่านช้อปปิ้งซึ่งเต็มไปด้วยห้างสินค้าแฟชั่น และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Isetan, Takashimaya และ Marui เรียงรายกันอยู่มากมาย อีกทั้งยังให้ท่านได้ชม และถ่ายรูปกับ Cat 3D ซึ่งเป็นที่สนใจของทั้งคนญี่ปุ่น และต่างชาติที่ผ่านมายังแยกชินจูกุ บริเวณตึก Cross Shinjuku จะเจอแมวยักษ์โผล่มาให้เห็น ซึ่งเป็นป้ายโฆษณาแบบ 3 มิติ “Cross Shinjuku Vision” ที่ความคมชัดระดับ 4K นั่นเอง แมวยักษ์ขนาดใหญ่ที่ขยับตัวไปมาเสมือนจริง สร้างความฮือฮาให้คนญี่ปุ่นต่างถ่ายคลิปแชร์กันในโลกออนไลน์กันเป็นอย่างมาก และบริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีชินจุกุ ยังมีห้างร้านให้นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มวัยได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นดิสเคาท์สโตร์อย่าง Don Quijote ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Yamada Denki หรือจะเป็น Shinjuku Subnade ซึ่งมีร้านสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก The Hedistar Hotel Narita หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (5)
*** อิสระเต็มวัน ให้ท่านได้เลือกซื้อทัวร์เสริม Disneyland หรือจะเลือกเดินเล่น ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย *** (ไม่มีรถบัสบริการ)
- ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) (ติดต่อพนักงานขายเพื่อสอบถามราคา) “ดิสนีย์แลนด์” โลกแห่งจินตนาการของราชาการ์ตูนญี่ปุ่น โดยที่โตเกียวแห่งนี้ เป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างนอกประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2526 จากการถมทะเล ท่านจะได้สนุกสนานกับเครื่องเล่นมากมายนานา หรือผจญภัยในดินแดนต่างๆ ทั้งเครื่องเล่นตัวใหม่จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องดัง Toy Story ทั้งฉากรบกลางทะเลคาริเบียนในดินแดนโจรสลัดจากภาพยนตร์ The Pirate of Caribbean หรือเขย่าขวัญกับบ้านผีสิงใน Haunted Mansion ชมภาพยนตร์สามมิติ The Invention of the Year อีกทั้งท่านได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกสุดน่ารักในดิสนีย์แลนด์ ท่านยังจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับตัวการ์ตูนเอกจากวอลท์ดิสนีย์ อย่าง มิกกี้ เม้าส์ มินนี่ เม้าส์ พร้อมผองเพื่อนตัวการ์ตูนอีกมากมาย หรือชมขบวน “อิเล็คทริคพาเหรด” ซึ่งจะจัดเป็นริ้วขบวนเพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างสวยงาม และอลังการด้วยเครื่องแต่งกายของนักแสดง รวมทั้งตัวการ์ตูนต่างๆ ของดิสนีย์ อาทิ ตัวละครจากภาพยนตร์เรื่อง “อะลาดิน” “ทอย สตอรี่” ที่ออกมาเต้น และเดินขบวนเสมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายนั้น จะตกแต่งไปด้วยดวงไฟสวยงามนับล้านดวง สามารถเปลี่ยนสีไปมาตามท่วงทำนองเพลงที่เปิดประกอบการเดินขบวน อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นไฮไลท์ของวันยามคํ่าคืนที่เต็มไปด้วยความฝันเลยทีเดียว
- ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ย่านช้อปปิ้งที่คนไทยคุ้นเคย และรู้จักกันเป็นอย่างดี ท่านจะได้ เพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายซื้อสินค้านานาชนิดของนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ซึ่งเต็มไปด้วยห้างสินค้าแฟชั่น และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Isetan, Takashimaya และ Marui เรียงรายกันอยู่มากมาย ท่านสามารถหาซื้อสินค้านานาชนิดได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านซานริโอะ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูป ดิจิตอล นาฬิกา เครื่องสําอาง ร้าน MUJI ร้านค้าร้อยเยน ร้าน UNIQLO ร้านขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง หรือถ่ายรูปกับ Cat 3D ซึ่งเป็นที่สนใจของทั้งคนญี่ปุ่น และต่างชาติที่ผ่านมายังแยกชินจูกุ บริเวณตึก Cross Shinjuku จะเจอแมวยักษ์โผล่มาให้เห็น ซึ่งเป็นป้ายโฆษณาแบบ 3 มิติ “Cross Shinjuku Vision” ที่ความคมชัดระดับ 4K นั่นเอง แมวยักษ์ขนาดใหญ่ที่ขยับตัวไปมาเสมือนจริง สร้างความฮือฮาให้คนญี่ปุ่นต่างถ่ายคลิปแชร์กันในโลกออนไลน์กันเป็นอย่างมาก และบริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีชินจุกุ ยังมีห้างร้านให้นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มวัยได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นดิสเคาท์สโตร์อย่าง Don Quijote ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Yamada Denki หรือจะเป็น Shinjuku Subnade ซึ่งมีร้านสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย
- ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) เป็นหนึ่งในพื้นที่หลักของการสัญจรอันคึกคักของคนญี่ปุ่น ย่านฮาราจูกุ เป็นย่านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแฟชั่นเป็นอย่างมาก ทั้งแฟชั่นล้ำสมัย คอสเพลย์ หรือการแต่งตัวตามศิลปินที่โด่งดัง เพราะเป็นจุดกำเนิดของการสร้างสรรค์แฟชั่นชนิดต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่วัยรุ่น ซึ่งบางวันก็จะมีวัยรุ่นแต่งกายด้วยชุดคอสเพลย์ต่างๆ มาเดินเที่ยว หรือร้านต่างๆ ก็จะแต่งกายด้วยชุดคอสเพลย์เพื่อสร้างสีสันให้กับย่านนี้เป็นอย่างมาก
- พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) คือสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ภายในพื้นที่กว้างใหญ่ ประกอบด้วยพระตำหนัก และอาคารต่างๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะ (Edo Castle) บริเวณพระราชวังจึงล้อมรอบด้วยคูน้ำ และกำแพงหินสูงตระหง่าน พระราชวังแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีสำคัญๆ อีกด้วย
- ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าแบบชินโตที่มีความสำคัญมากในประเทศญี่ปุ่น การสร้างศาลเจ้าแห่งนี้เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับชาติ มีการออกแบบ และสร้างโดยนักออกแบบชั้นนำ และช่างฝีมือ ชาวญี่ปุ่นได้มีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้า ด้วยการบริจาคต้นไม้เพื่อปลูกเป็นป่ารอบๆ ศาลเจ้า มีต้นไม้ถูกส่งมาจากทั่วญี่ปุ่นถึง 100,000 ต้น มักจะมีการจัดงานแต่งงานที่นี่อยู่บ่อยๆ ในวันปีใหม่จะมีชาวญี่ปุ่น และ นักท่องเที่ยวมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ถึง 3 ล้านคน
*** อิสระอาหารกลางวัน และอาหารเย็น เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาตามอัธยาศัย ***
ที่พัก The Hedistar Hotel Narita หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (6)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ...
09.15 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ 601 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6.45 ชั่วโมง
14.00 น. คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ...
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
02 ต.ค. 66 - 06 ต.ค. 66 | 34,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
07 ต.ค. 66 - 11 ต.ค. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
03 พ.ย. 66 - 07 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
08 พ.ย. 66 - 12 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
09 พ.ย. 66 - 13 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 พ.ย. 66 - 15 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
14 พ.ย. 66 - 18 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
22 พ.ย. 66 - 26 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
23 พ.ย. 66 - 27 พ.ย. 66 | 36,919 บาท | 9,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
อัตราค่าบริการรวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท
99/530 หมู่ที่ 6 ตำบลบางแขม อำเภอเมืองนครปฐม จ.นครปฐม 73000